“อาหารที่ควรหลีกเลี่ยงในผู้ป่วยมะเร็ง – ปรับเมนู ลดเสี่ยง ดูแลสุขภาพให้พร้อมสู้โรค”

อาหารที่ควรหลีกเลี่ยงในผู้ป่วยมะเร็ง – ปรับเมนู ลดเสี่ยง ดูแลสุขภาพให้พร้อมสู้โรค

 อาหารไม่ใช่แค่พลังงาน…แต่คือ “พันธมิตร” ของผู้ป่วยมะเร็ง

เมื่อเราได้ยินคำว่า “มะเร็ง” ชีวิตดูเหมือนจะเปลี่ยนไปในพริบตา การรักษาทางการแพทย์อย่างการผ่าตัด คีโม หรือการฉายแสง อาจเป็นแนวทางหลักในการต่อสู้กับโรคนี้ แต่สิ่งที่มักถูกมองข้าม และในความจริงแล้ว “มีอิทธิพลมหาศาล” ต่อการฟื้นตัวและคุณภาพชีวิตของผู้ป่วยก็คือ อาหาร

อาหารไม่ใช่แค่แหล่งพลังงานเพื่อให้ร่างกายขับเคลื่อน แต่คือ “เครื่องมือ” สำคัญที่ช่วยซ่อมแซมเนื้อเยื่อ เสริมสร้างภูมิคุ้มกัน และลดผลข้างเคียงจากการรักษา หากเลือกอาหารอย่างถูกวิธี ร่างกายของผู้ป่วยจะมีแนวโน้มตอบสนองต่อการรักษาได้ดีขึ้น และที่สำคัญคือ…มีแรง มีใจ และมีกำลังใจในการก้าวต่อไป

อย่างไรก็ตาม ในทางตรงกันข้าม “อาหารบางประเภท” ก็อาจเป็นภัยเงียบที่ส่งผลร้ายต่อร่างกาย โดยเฉพาะในผู้ป่วยที่ภูมิคุ้มกันอ่อนแออยู่แล้ว อาหารเหล่านี้อาจกระตุ้นให้เกิดการอักเสบ ซ้ำเติมความเสื่อม หรือเพิ่มภาระการทำงานของร่างกายโดยไม่รู้ตัว ยิ่งในช่วงที่ร่างกายกำลังฟื้นตัวหรืออยู่ระหว่างการรักษา ความระมัดระวังในการเลือกอาหารจึงเป็นเรื่องที่ไม่ควรมองข้ามอย่างยิ่ง

แล้วอาหารแบบไหนล่ะ…ที่ควรหลีกเลี่ยง?

อาหารที่ไม่เหมาะสมสำหรับผู้ป่วยมะเร็งมีอยู่หลายประเภท ตั้งแต่อาหารแปรรูปที่มีสารกันบูด อาหารหมักดองที่มีโซเดียมสูง ไปจนถึงของทอด ของหวานจัด หรืออาหารที่ผ่านการปรุงด้วยอุณหภูมิสูงจนเกิดสารก่อมะเร็ง เช่น ของปิ้งย่างไหม้เกรียม สิ่งเหล่านี้อาจไม่ได้ก่อปัญหาทันทีในคนทั่วไป แต่สำหรับผู้ป่วยที่ต้องดูแลร่างกายอย่างเข้มงวด อาหารเหล่านี้อาจทำให้สภาวะในร่างกายแย่ลง

และไม่ใช่แค่อาหารเพียงอย่างเดียว พฤติกรรมการกิน” ก็เป็นปัจจัยสำคัญ เช่น การกินข้าวน้อยเกินไป กินไม่ตรงเวลา หรือการงดอาหารกลุ่มใดกลุ่มหนึ่งแบบไม่มีความรู้ อาจทำให้ร่างกายขาดสารอาหารจำเป็น และยิ่งทำให้การรักษายากขึ้น

👩‍⚕️ รู้จักความเสี่ยง เพื่อป้องกันอย่างเข้าใจ

มีงานวิจัยจำนวนมากที่ชี้ชัดว่า พฤติกรรมการกินที่ดีสามารถลดความเสี่ยงของการเกิดมะเร็งซ้ำ หรือการแพร่กระจายของเซลล์มะเร็งได้ รวมถึงสามารถช่วยให้ผู้ป่วยทนต่อการรักษาได้ดีขึ้น เช่น การได้รับโปรตีนเพียงพอ ช่วยลดอาการกล้ามเนื้อลีบ หรือการลดปริมาณไขมันอิ่มตัวช่วยลดภาระตับและหลอดเลือด

ในขณะเดียวกันก็มีผลวิจัยที่แสดงว่า สารเคมีบางชนิดในอาหารแปรรูป หรือสารก่อมะเร็งในอาหารไหม้เกรียม อาจกระตุ้นให้ร่างกายเกิดการอักเสบเรื้อรัง และสร้างสภาพแวดล้อมที่เหมาะสมกับการเจริญเติบโตของเซลล์ผิดปกติ

ดังนั้น การรู้เท่าทัน “สิ่งที่ควรหลีกเลี่ยง” จึงไม่ใช่เพียงแค่การ “งดของต้องห้าม” แต่คือการมองอาหารด้วยมุมใหม่—มองว่าอาหารคือพลังบวก ที่หากเลือกให้ถูก ก็จะกลายเป็นพันธมิตรสำคัญในการรักษา

🍚 เมื่ออาหารไทยก็สามารถเป็นทางเลือกที่ดี

แม้ผู้ป่วยจะถูกจำกัดหลายอย่างในการกิน แต่ “อาหารไทย” ก็ยังเป็นความหวังหนึ่งของมื้อที่อร่อยและปลอดภัย หากรู้จักดัดแปลง หลีกเลี่ยงส่วนผสมที่ไม่เหมาะสม และใช้เครื่องปรุงที่เหมาะกับสุขภาพ เช่น เครื่องปรุงสูตรลดโซเดียม น้ำมันพืชดี หรือวิธีปรุงแบบต้มและอบ

เราสามารถทำ “ต้มจืดเต้าหู้ขาวผักกาดขาว” ให้อร่อยโดยไม่ต้องใช้ผงชูรส
หรือเปลี่ยนจาก “หมูย่างติดมัน” เป็น “อกไก่อบซอสสมุนไพร” ที่รสชาติเบาแต่กลิ่นหอม
ความอร่อยของอาหารจึงไม่จำเป็นต้องแลกกับสุขภาพเสมอไป

💡ในบทความนี้ เราจะพาทุกคนไปรู้จักว่าอาหารแบบใดที่ควรหลีกเลี่ยงอย่างจริงจัง พร้อมกับคำอธิบายที่เข้าใจง่าย และแนวทางในการปรับเปลี่ยนให้กลายเป็นเมนูที่ผู้ป่วยสามารถกินได้อย่างสบายใจ

อาหารคือส่วนหนึ่งของการรักษาอย่างยั่งยืน
และทุกคำที่กินเข้าไป…คืออีกก้าวของการมีชีวิตอยู่ต่ออย่างมีคุณภาพ

กลุ่มอาหารที่ควรหลีกเลี่ยงในผู้ป่วยมะเร็ง – รู้ก่อน ปรับได้ ปลอดภัยกว่า

การดูแลอาหารของผู้ป่วยมะเร็งไม่ใช่แค่การเน้นสิ่งที่ “ควรกิน” แต่สิ่งสำคัญพอๆ กันคือ สิ่งที่ควรหลีกเลี่ยง เพราะอาหารบางประเภทสามารถ “กระตุ้นการอักเสบ” ซ้ำเติมร่างกาย หรือแม้กระทั่ง “ส่งเสริมการเจริญของเซลล์มะเร็ง” ได้โดยที่เราไม่รู้ตัว เรามาดูกันว่าอาหารกลุ่มใดที่ควรลดหรือหลีกเลี่ยงเพื่อให้มื้ออาหารปลอดภัยมากขึ้น

❌ 1. อาหารแปรรูป (Processed Foods)

เช่น เบคอน ไส้กรอก แฮม เนื้อแปรรูป

อาหารกลุ่มนี้มักมี ไนไตรต์และไนเตรต ซึ่งเป็นสารกันเสียที่เมื่อเข้าสู่ร่างกายแล้วสามารถเปลี่ยนเป็น ไนโตรซามีน ซึ่งเป็นสารก่อมะเร็ง นอกจากนี้ยังมักมีปริมาณโซเดียมสูง ซึ่งเสี่ยงต่อความดันโลหิตสูงและภาวะแทรกซ้อนอื่นๆ

❌ 2. ของทอดและอาหารไหม้เกรียม

เช่น ไก่ทอด หมูกรอบ เนื้อย่างติดมัน ปิ้ง-ย่างไหม้ๆ

การปรุงด้วยอุณหภูมิสูงโดยเฉพาะการทอดและปิ้งย่างสามารถก่อให้เกิด สารอะคริลาไมด์ (Acrylamide) และ เฮเทอโรไซคลิกเอมีน (HCA) ซึ่งเป็นสารก่อมะเร็ง โดยเฉพาะอาหารที่ไหม้เกรียม หรือทอดซ้ำในน้ำมันเก่า

💡 ทางเลือก: เปลี่ยนเป็นวิธี นึ่ง ต้ม อบ หรือใช้กระทะเคลือบปรุงด้วยน้ำหรือน้ำซุปแทนการใช้น้ำมัน

❌ 3. น้ำตาลสูง / เครื่องดื่มหวาน

เช่น น้ำอัดลม ชานม ของหวานจัด ขนมเบเกอรี

แม้ว่า “น้ำตาล” จะไม่ได้ทำให้เกิดมะเร็งโดยตรง แต่ระดับอินซูลินในร่างกายที่สูงจากการบริโภคน้ำตาลมากๆ จะ ส่งเสริมการอักเสบ และกระตุ้นการเจริญของเซลล์มะเร็ง ได้ นอกจากนี้ ผู้ป่วยที่รับเคมีบำบัดอาจมีน้ำตาลในเลือดสูงได้ง่ายขึ้น

✅ ทางเลือก: เปลี่ยนเป็นผลไม้สดในปริมาณเหมาะสม หรือของหวานจากถั่ว ถั่วบด งาดำ ที่มีน้ำตาลน้อย

❌ 4. อาหารหมักดอง / อาหารเค็มจัด

เช่น ปลาร้า ไข่เค็ม ผักดอง กะปิ น้ำพริกบางชนิด

อาหารกลุ่มนี้มี โซเดียมสูง มาก และในกระบวนการหมักอาจมี สารไนโตรซามีน ปนเปื้อนอยู่ ซึ่งสัมพันธ์กับมะเร็งในระบบทางเดินอาหาร โดยเฉพาะมะเร็งกระเพาะอาหาร

📌 คำแนะนำจากกรมอนามัย: ควรบริโภคโซเดียมไม่เกิน 2,000 มก. ต่อวัน (เทียบเท่าเกลือประมาณ 1 ช้อนชา)

❌ 5. อาหารที่มีไขมันอิ่มตัวสูง

เช่น เครื่องในสัตว์ หนังสัตว์ อาหารฟาสต์ฟู้ด ขนมอบกรอบ

ไขมันอิ่มตัวสูงทำให้ร่างกายอักเสบได้ง่าย เสี่ยงต่อภาวะไขมันพอกตับ หรือโรคหัวใจที่ซ้ำเติมร่างกายผู้ป่วยมะเร็งได้

🥑 ทางเลือก: ใช้น้ำมันจากพืช เช่น น้ำมันรำข้าว น้ำมันมะกอก และเพิ่มไขมันดีจากอะโวคาโด ถั่วเมล็ดแห้ง

❌ 6. แอลกอฮอล์

แม้ในปริมาณเล็กน้อยก็พบว่ามีความเสี่ยงเพิ่มขึ้นต่อมะเร็งบางชนิด เช่น มะเร็งตับ มะเร็งเต้านม มะเร็งในช่องปาก โดยแอลกอฮอล์จะเปลี่ยนเป็น อะเซตัลดีไฮด์ (Acetaldehyde) ซึ่งเป็นสารพิษในตับและสารก่อมะเร็ง

✅ คำแนะนำ: หลีกเลี่ยงอย่างเด็ดขาดในช่วงการรักษาและพักฟื้น

🧾 สรุปภาพรวมอาหารที่ควรหลีกเลี่ยงในผู้ป่วยมะเร็ง:

หมวด ตัวอย่างอาหาร ความเสี่ยง
แปรรูป ไส้กรอก เบคอน ไนโตรซามีน
ทอด / ปิ้ง ไก่ทอด หมูปิ้งไหม้ HCA, Acrylamide
หวานจัด น้ำอัดลม ขนมหวาน น้ำตาลสูง, อินซูลินพุ่ง
หมักดอง กะปิ ปลาร้า โซเดียมสูง, สารปนเปื้อน
ไขมันสูง ของทอด ฟาสต์ฟู้ด อักเสบเรื้อรัง
แอลกอฮอล์ สุรา เบียร์ สารพิษต่อตับ

เคล็ดลับการปรับพฤติกรรมการกิน – กินอย่างไรให้ปลอดภัย โดยไม่เครียด

การดูแลอาหารในผู้ป่วยมะเร็งไม่ควรเป็นเรื่องของ “ข้อห้ามจนเกินไป” เพราะแม้จะมีสิ่งที่ต้องหลีกเลี่ยง แต่หากการกินกลายเป็นความเครียด จะยิ่งลดคุณภาพชีวิตและส่งผลทางอ้อมต่อระบบภูมิคุ้มกันได้มากกว่าที่เราคิด

ต่อไปนี้คือแนวทางการ “ปรับ” พฤติกรรมการกินแบบยั่งยืน ที่ช่วยให้การฟื้นตัวของผู้ป่วยมะเร็งเป็นไปอย่างราบรื่น

✅ 1. ปรับเมนูเดิมให้เหมาะสม

หลายเมนูไทยที่ผู้ป่วยคุ้นเคยสามารถ “ปรับ” ให้เหมาะสมได้
เช่น:

  • ต้มยำกุ้ง → เปลี่ยนเป็น “ต้มยำเห็ดน้ำใส”
  • ข้าวผัดหมู → เปลี่ยนเป็น “ข้าวผัดอกไก่ใส่ผักนึ่ง”
  • ไก่ทอด → เปลี่ยนเป็น “ไก่อบซอสสมุนไพร” ที่ใช้น้ำมันน้อยและเครื่องปรุงปลอดภัย

การคงรูปแบบเมนูที่คุ้นเคยไว้จะช่วยให้ผู้ป่วยรู้สึก “ไม่ห่างไกล” จากวิถีการกินแบบเดิม และรู้สึกว่าชีวิตยังปกติอยู่

✅ 2. ใช้เครื่องปรุงให้เป็นมิตรต่อร่างกาย

หลีกเลี่ยงน้ำปลาหรือซอสปรุงรสทั่วไป แล้วเปลี่ยนเป็น:

  • ซอสสูตรลดโซเดียม
  • ผงปรุงรสจากพืช
  • สมุนไพรสด เช่น กระเทียม พริกไทย ใบมะกรูด ตะไคร้

เครื่องปรุงรสเหล่านี้ช่วยให้ผู้ป่วยไม่รู้สึกว่ารสจืดจนทานไม่ได้ และยังได้สารต้านอนุมูลอิสระในสมุนไพรบางชนิดด้วย

✅ 3. รับประทานอาหารเป็นเวลา และสม่ำเสมอ

ระบบย่อยอาหารของผู้ป่วยมะเร็ง โดยเฉพาะในช่วงที่กำลังรับเคมีบำบัดหรือฉายแสง อาจไวต่อความเปลี่ยนแปลง หากทานอาหารไม่เป็นเวลา จะทำให้ระดับน้ำตาลในเลือวผันผวน และเสี่ยงต่อภาวะคลื่นไส้อาเจียนมากขึ้น

💡 คำแนะนำ: รับประทานวันละ 4–5 มื้อย่อย แทนมื้อใหญ่ 2–3 มื้อ เพื่อให้ระบบย่อยไม่ทำงานหนักเกินไป

✅ 4. รักษาความสะอาดและสุขอนามัยอาหาร

ภูมิคุ้มกันของผู้ป่วยมะเร็งอ่อนแอกว่าคนทั่วไป
อาหารที่ไม่สด หรือปรุงไม่สะอาดอาจทำให้เกิดการติดเชื้อทางเดินอาหารได้ง่าย

🧴 คำแนะนำ:

  • หลีกเลี่ยงอาหารดิบ เช่น ซูชิ ปลาสด เนื้อดิบ
  • เลือกวัตถุดิบสดใหม่ ปรุงสุกทุกครั้ง
  • ล้างผักด้วยน้ำสะอาดหรือน้ำด่างทับทิมก่อนปรุง

✅ 5. ดื่มน้ำอย่างเหมาะสม

น้ำคือสิ่งสำคัญ แต่ต้องดื่มให้เหมาะสมกับสภาวะของร่างกาย
ในบางผู้ป่วยที่มีปัญหาคลื่นไส้ อ่อนแรง หรือไตเริ่มทำงานลดลง อาจต้องจำกัดปริมาณน้ำ

📌 คำแนะนำ:

  • ดื่มน้ำสะอาดอย่างน้อยวันละ 6–8 แก้ว (ถ้าแพทย์ไม่สั่งจำกัด)
  • หลีกเลี่ยงน้ำผลไม้ที่เติมน้ำตาล
  • หากไม่ชอบน้ำเปล่า ลองเพิ่มมะนาวฝานหรือใบสะระแหน่เพื่อให้สดชื่น

✅ 6. ฟังร่างกายและจิตใจของตัวเอง

บางวันผู้ป่วยอาจรู้สึกไม่อยากอาหาร หรือรู้สึกเบื่อ ไม่อยากทานของเดิม
นั่นเป็นเรื่องปกติที่ควรเข้าใจ อย่าฝืนหรือบังคับตัวเองมากเกินไป

💬 เคล็ดลับ: หมั่นพูดคุยกับคนในครอบครัว หาผู้ดูแลที่เข้าใจ หรือทดลองเมนูใหม่ๆ ที่ยังคงปลอดภัยและมีสีสัน เช่น ซุปฟักทอง ข้าวต้มปลานึ่ง หรือยำเต้าหู้ขาว

💡 การกินไม่ควรเป็นภาระหรือความเครียด แต่ควรเป็นความสุขเล็กๆ ที่ผู้ป่วยรู้สึกควบคุมได้

การปรับพฤติกรรมการกินอย่างค่อยเป็นค่อยไป ด้วยความเข้าใจและใส่ใจ
จะช่วยให้ผู้ป่วยมะเร็งมีคุณภาพชีวิตที่ดีขึ้น ไม่ใช่แค่ร่างกาย…แต่คือจิตใจที่เข้มแข็งขึ้นด้วย

 เมนูไทยที่เหมาะกับผู้ป่วยมะเร็ง – อร่อยละมุน ไม่กระทบสุขภาพ

แม้ว่าอาหารหลายชนิดจะต้องหลีกเลี่ยงในระหว่างการรักษามะเร็ง แต่ก็ยังมีเมนูอาหารไทยจำนวนไม่น้อยที่สามารถนำมาปรับเปลี่ยนให้เหมาะกับผู้ป่วยได้ โดยเน้น “อาหารอ่อน ย่อยง่าย” และ “มีสารอาหารครบถ้วน” ซึ่งช่วยเสริมภูมิคุ้มกัน และทำให้ร่างกายได้รับพลังงานที่เหมาะสม

🥣 10 เมนูอาหารไทยอ่อนโยนต่อร่างกายผู้ป่วยมะเร็ง

  1. ข้าวต้มปลา – ใช้ปลานึ่งหรือย่าง ไม่ปรุงรสจัด และหลีกเลี่ยงน้ำมัน
  2. ซุปฟักเขียวใส่ไก่ – น้ำซุปเคี่ยวจากไก่ไม่ติดหนัง เพิ่มฟักที่ย่อยง่าย
  3. แกงจืดเต้าหู้ไข่กับผักใบอ่อน – ให้โปรตีนจากไข่ขาวและเต้าหู้ พร้อมไฟเบอร์จากผัก
  4. ข้าวต้มหมูบดใส่ฟักทอง – เพิ่มคาร์โบไฮเดรตเชิงซ้อนจากฟักทอง
  5. ผัดผักรวมแบบไม่ใช้น้ำมัน – ใช้น้ำเปล่าผัดแทน พร้อมเลือกผักย่อยง่าย เช่น บรอกโคลี แครอท
  6. ปลานึ่งมะนาวแบบรสอ่อน – ลดรสจัด เลี่ยงความเปรี้ยวจัดและเผ็ด
  7. น้ำพริกปลาย่างแบบไม่เค็ม – ทานกับผักลวก ไม่ใช้น้ำปลา
  8. ข้าวกล้องนุ่มกับแกงเลียงแบบเจือจาง – เพิ่มไฟเบอร์และวิตามิน
  9. เต้าหู้นึ่งซอสเห็ดหอม – ย่อยง่าย ให้โปรตีนจากพืช
  10. ข้าวสวยนุ่มกับยำสลัดอกไก่รสอ่อน – ยำแบบไม่ใส่น้ำตาลหรือน้ำปลามาก

💡 เคล็ดลับการปรุงอาหารให้เหมาะกับผู้ป่วยมะเร็ง:

  • เลี่ยงผงชูรส เครื่องปรุงเค็มจัด หวานจัด
  • ใช้ วิธีนึ่ง ต้ม อบ แทนการทอด
  • เน้นใช้ สมุนไพรไทยอย่างอ่อนโยน เช่น ขิง ตะไคร้ ใบมะกรูด แต่ในปริมาณพอเหมาะ
  • หลีกเลี่ยง การปรุงรสจัด เพราะอาจกระตุ้นอาการคลื่นไส้หรือระคายเคืองในผู้ที่ทำเคมีบำบัด
  • ปรับความสม่ำเสมอของอาหารให้เหมาะกับสภาพร่างกาย เช่น บดหรือต้มให้นิ่มหากมีปัญหาเรื่องการกลืน

🌟 สิ่งสำคัญเหนือเมนู คือ “ความใส่ใจ”

แม้จะมีข้อจำกัดด้านอาหาร แต่ความสุขในการกินยังคงสามารถเกิดขึ้นได้ หากคนที่อยู่รอบตัวเข้าใจและช่วยสร้างสรรค์มื้ออาหารด้วยใจ เช่น การจัดจานให้สวยงาม หรือการพูดคุยสร้างบรรยากาศที่ดีในระหว่างรับประทานอาหาร

อาหารจึงไม่ใช่เพียงพลังงาน แต่คือความห่วงใยที่ส่งผ่านในทุกคำ

เมื่ออาหารคือเพื่อนร่วมทางของการรักษา

สำหรับผู้ป่วยมะเร็ง การเลือกอาหารที่เหมาะสมไม่ใช่เรื่องเล็กน้อย แต่เป็น “เครื่องมือ” ที่ทรงพลังในการช่วยฟื้นฟูร่างกาย เพิ่มพลังใจ และสนับสนุนการรักษาให้มีประสิทธิภาพมากขึ้น

ในบทความนี้ เราได้เรียนรู้ว่า…

  • อาหารที่ควรหลีกเลี่ยง เช่น ของหมักดอง อาหารแปรรูป มันทอด น้ำตาลสูง ฯลฯ ล้วนมีผลต่อภูมิคุ้มกัน การอักเสบ และกระบวนการฟื้นตัว
  • อาหารไทยสามารถดัดแปลงให้เหมาะกับผู้ป่วยมะเร็งได้อย่างนุ่มนวลและปลอดภัย หากเราปรุงด้วยใจ ใส่ใจในวัตถุดิบ และเข้าใจหลักโภชนาการ
  • ไม่ใช่แค่การกิน แต่การดูแลเรื่อง “จิตใจ” ผ่านมื้ออาหารนั้น ส่งผลลึกซึ้งต่อสุขภาพโดยรวม

สิ่งสำคัญที่สุดคือ “ความสมดุล” – เราไม่ต้องพยายามควบคุมทุกอย่างจนเกิดความเครียด แต่อย่างน้อย การตระหนักถึงผลของอาหารที่เรากิน จะทำให้เรารักตัวเองมากขึ้น และรับมือกับโรคด้วยใจที่แข็งแรงกว่าเดิม

“มื้ออาหารที่ดี ไม่จำเป็นต้องหรูหรา แต่อาจเป็นเพียงข้าวต้มอุ่นๆ ถ้วยหนึ่ง ที่มีรอยยิ้มของคนที่ห่วงใยซ่อนอยู่ในทุกคำ”

ขอเป็นกำลังใจให้ทุกครอบครัวที่อยู่ระหว่างเส้นทางการรักษา
เพราะแม้จะไม่ใช่ทางที่ง่าย…แต่เราจะผ่านมันไปได้ อย่างดี

🌿 สามารถดูข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่
👉 www.nizeseasonings.com

ข้อมูลอ้างอิง: องค์การอนามัยโลก (WHO) จัดให้เนื้อแปรรูปเป็น “สารก่อมะเร็งในกลุ่ม 1” ซึ่งมีหลักฐานชัดเจนว่าก่อให้เกิดมะเร็งในมนุษย์

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

เราใช้คุกกี้เพื่อพัฒนาประสิทธิภาพ และประสบการณ์ที่ดีในการใช้เว็บไซต์ของคุณ คุณสามารถศึกษารายละเอียดได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และสามารถจัดการความเป็นส่วนตัวเองได้ของคุณได้เองโดยคลิกที่ ตั้งค่า

ตั้งค่าความเป็นส่วนตัว

คุณสามารถเลือกการตั้งค่าคุกกี้โดยเปิด/ปิด คุกกี้ในแต่ละประเภทได้ตามความต้องการ ยกเว้น คุกกี้ที่จำเป็น

ยอมรับทั้งหมด
จัดการความเป็นส่วนตัว
  • เปิดใช้งานตลอด

บันทึกการตั้งค่า